วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"ไม่ไปไหนเหรอคะ"

ร่างผอมกะหร่องที่นอนกระดิกเท้าอ่านหนังสือพิมพ์อย่างสบายอารมณ์ภาย ใต้ร่มต้นปีบต้นใหญ่พลันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงกระแอมดังอยู่ใกล้ๆ หันขวับไป ก็เห็นหลานสาวคุณปรียางค์ศรียืนกอดอกมองอยู่ สายลมเย็นพัดเอื่อยจนลูกผม ที่ปรกอยู่ตรงใบหน้าหล่อนหล่นมาตกที่หน้าผาก หน้านวลใสดูสดชื่น อาจจะ เป็นความสดชื่นครั้งแรกที่ได้เห็นนับตั้งแต่ประมุขของคุ้มภูคากาซะลองจากไป สายตาของกาซะลองมองเขาอย่างสำรวจตรวจตราติดจะสงสัยอยู่ด้วยซํ้า
"มีอะไรหรือปีบ ไม่เจอหน้ากันไม่กี่วันมองผมอย่างกับไม่เคยเห็น"
หญิงสาวยิ้มแหย"หน้าขาวๆ ของลูกชายท่านรัฐมนตรีไม่มีร่องรอยใดๆ ที่ผ่านการต่อสัอย่างสดๆ ร้อนๆ มาเลย หากจะมืก็เพียงรอยคลํ้าจางๆ ที่ สฤษด์คุณเคยฝากรอยหมัดเอาไว้เท่านั้น ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ และอีกฝ่ายก็หดแข้ง หดขาคืนอย่างเกรงใจ ไม่ใช่ในฐานะที่หล่อนเป็นเจ้าของบ้าน แต่ลักษณะเฉพาะ ตัวบางอย่างที่อย่างไรเสียกาชะลองก็น่า 'เกรง' อยู่ดี แม่แรงไฟฟ้า
"ไม่ไปไหนเหรอคะ"
อีกฝ่ายส่ายหน้าน้อยๆ ยิ้มละไม "ไม่ล่ะ ผมใช้ชีวิตเสเพลมามากพอแล้ว รู้มั้ย ผมอยากจะนอนนิ่งๆ ดูเดือนดูตะวันอย่างนี้มากกว่า ที่นี่ด้วยนะ ถ้าปีบอนุญาต"
แววใดให้จับพิรุธ กาซะลองจึงเฉยเสีย
"อ้าว พูดถึงก็มาพอดี เชิญครับเชิญ ผู้กอง" ลูกชายท่านรัฐมนตรีพูดเอง เออเองเสร็จสรรพ ร่างผอมกะหร่องผุดลุกขึ้นทักทายผู้กองหนุ่มอย่างร่าเริง แต่เพียงเห็นหน้าอีกฝ่ายรอยยิ้มก็หุบในทันใด
"ไปฟัด...เอ๊ย! ต่อยกับใครมาครับเนี่ย เยินไปหมดทั้งตัวผู้กอง" แม่แรง ไฟฟ้า รถยนต์
ศกรยิ้มน้อยๆ ตามนิสัย มือแข็งแรงลูบใบหน้าที่ยังมีร่องรอยฟกชาเบาๆ "ก็...ผู้ร้ายน่ะครับ ไม่มีอะไร"
ดูจะเป็นการ 'ไม่มีอะไร' อย่างที่บอก แต่อีกครั้งที่ดิสธรรู้สืกเหมือนกำลัง ถูกสำรวจตรวจตราอย่างละเอียด ดวงตาคมกริบมองตามใบหน้าเขาไล่มาตาม ร่างกาย แต่เพียงชั่วครู่ก็ตวัดขึ้นยิ้มดังเดิม
"มีอะไรกันรึเปล่าครับ ตะกี้ผมก็เห็นปีบมองผมด้วยสายตาแบบนี้เหมือนกัน"
"ไม่มีอะไรครับ"
ผู้กองรีบแก้ต่าง สบตากับกาซะลองและเขาก็เห็นหล่อนจ้องมองอยู่แล้ว ตาต่อ ตาสบกันก่อนที่ดวงตาดำใหญ่จะเมินไปอีกทาง ศกรได้ยินเสียงคล้ายถอนหายใจ เบาๆ อย่างโล่งอก และพอเสียวหน้าคมมองกลับมาเขาก็เห็นหล่อนยิ้มน้อยๆ แม่แรงตะเข้
ไม่มืการพูดจา แต่ทั้งค่ก็รู้ว่า บุรุษลึกลับนายนั้นไม่ใช่ลูกชายท่านรัฐมนตรี อย่างแน่นอน
"พอดีเมื่อคืนคุยกันกับปีบถึงคุณ ว่าอยู่ที่คุ้มน่าจะขุนให้อ้วน คุณผอมไปนะ" "ผมน่ะหุ่นนายแบบ"
ลูบพุงที่ปราศจากไขมันอย่างพอใจนิดๆ เพื่อนแม่หลายคนเคยเชิญ1หไป เดินแบบการกุศลอยู่บ่อยๆ มันทำให้ลำพองใจอยู่ไม่น้อยในลักษณะรูปร่างสูง โปร่ง ถึงจะไม่ผึ่งผายเหมือนผู้กองหน้าเข้มก็ตามเถอะ
"แต่ไม่แน่นะ อยู่ที่นี่ผมอาจจะอ้วนขึ้นก็ได้ ฝีมือทำกับข้าวของแพรสาอร่อย เด็ดจริงๆ ถ้าผมมีโอกาสได้ทานฝีมือแพรสาตลอดชีวิตก็คงดี"
ท้ายเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานจนคนฟังคร้านจะแหย่เล่น แววตาลูกชายท่าน รัฐมนตรีนุ่มนวลชวนฝืนเหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งตกอยู่ในภวังค์รัก ยิ่งเห็นเรือน ร่างบอบบางของแพรสาเดินตรงเข้ามา แววหวานนั้นก็ยิ่งปรากฎอย่างเด่นชัด
"มีอะไรจ๊ะแพร"
แม่แรงตะเข้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น