วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

กาซะลองเบ้หน้า ตอบเสียงดังฟังชัด

มอเตอร์ไซด์คันใหญ่พาหล่อนและเขาแล่นฝ่าพายุฝนออกไป แม้จะมี หมวกกันน็อค แต่กาซะลองยังรู้สึกถึงแรงลมที่พัดมาปะทะใบหน้า
ทั้งหนาวทั้งเย็นทั้งมืดจนหงุดหงิด...พายุบ้าอะไร เมื่อไหร่จะหยุดๆ เสียที
มองแผ่นหลังกว้างที่อยู่เบื้องหน้า แต่ร่างสูงใหญ่ไม่ได้ไหวติงกับแรงลม นั้นแม้แต่นิดเดียว ศกรยังนั่งนิ่งเป็นสง่า ใช้สมาธิกับการพาพาหนะไปให้ถึง จุดหมาย ชายหนุ่มรู้สึกถึงระยะห่างที่ร่างบอบบางพยายามกันตัวเองเอาไว้
โธ่ แม่เจ้าประคุณ เบาะรถก็มีแค่นี้ นั่งซะห่าง ประเดียวก็ได'ลงไปนอน แอ้งแม้งกับพื้นกันพอดี
"ถ้าไม่รังเกียจ เกาะหลังผมไว้ได้นะคุณ ประเดี๋ยวจะตก" แม่แรงไฟฟ้า
กาซะลองเบ้หน้า ตอบเสียงดังฟังชัด "ฉันรังเกียจ!"
อยากจะหัวเราะดังๆ กับความดี้อดึงของเจ้าหล่อน แต่ร่างของแมวสีดำ ตัวอ้วนใหญ่ที่วิ่งตัดหน้ารถอย่างรวดเร็วทำให้ศกรต้องเบรกรถอย่างกะทันหัน
กาซะลองได้ยินเสียงตัวเองร้องวี้ดออกมาอย่างสุดเสียง รู้สึกเหมือนร่าง จะลอยละล่องอยู่ในอากาศ แต่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น หลังก็ลัมผัสกับพํ่นแข็งๆ ในทันที
"ไปกับเจ้าหน้าที่ เขาจะไปส่งคุณที่ป้อม" "แล้วรถฉันล่ะ" แม่แรง ไฟฟ้า รถยนต์
"จะเอาไปด้วยมั้ยล่ะ ถ้าเอาก็ลากซากต้นไมไปด้วย' ศกรตอบหน้าตาเฉย และไอ้ความที่หน้าตาเรียบเฉยนี่ล่ะที่ทำให้คนฟังแทบร้องกรี๊ด เพราะในความ รู้สึกของกาซะลองมันช่างกวนประสาทเหลือทน
ด้ายยย อีตา®กร ในเมื่อตั้งใจกวนประสาทฉัน ฉันก็ไม่ยอมแพ้นายหรอก หล่อนพูดออกไปเสียงห้วน ดวงหน้าไม่ได้มองไปทางเขาเสียด้วยซา "แล้วฉันจะ ไปที่ป้อมตำรวจนั่นได้ยังไง...โดยไม่เปียก"
ศกรนิ่วหน้า พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการตีรวน ก็...ตามนิกัยเดิมๆ ของเจ้า หล่อนนั่นล่ะ ชายหนุ่มเอื้อมไปหยิบร่มคันจิ๋วที่เหน็บอยู่ข้างรถส่งให้ "มีแคน ถ้า ต้องการมากกว่านี้ก็...ไม่ได้"
กาซะลองเปิดประตูก้าวลงจากรถอย่างเสียไม่ได้ ขณะเอี้อมมีอไปรับร่ม อย่างกระแทกกระทั้น เขาไมใด้สนใจหล่อนแม้แต่น้อย ไม่...แม้แต่จะปรายตามอง รู้สึกเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และเขาก็เป็นฝ่ายปล่อยร่มซึ่งส่งให้หล่อนก่อน หญิงสาว ได้ยินเสียงห้าวๆ สั่งเจ้าหน้าที่ที่ติดตามมาด้วยให้จัดการกับสิงที่ล้มลงมาขวางถนน
กาซะลองยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงนั้น ภาพที่เห็นเจ้าหน้าที่ช่วยกันคนละไม้ ละมือทำให้หล่อนเกิดความละอายใจอยู่ไม่น้อย หากจะหลบฝนไปนั่งสบายอยู่ คนเดียว แม่แรงตะเข้
"ไปกับจ่าเมฆสิคุณ ที่ป้อมน่ะ ถึงจะเล็กแต่ก็พอกันฝนกันฟ้าได้...กลัวไม่ ใช่หรือไง"
อ้อ.' ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์จำได้ เพราะเมื่อยังเยาว์วัย ยามใดที่ฝนตก หล่อนจะต้องยกมือไหว้ฝนไหว้ฟ้าปลกๆ เพราะกลัวเหลือเกินกับเสียงกึกก้อง กัมปนาทนั่น
แต่พอเหลีอบมองเห็นหน้าคมๆ เข้มๆ ทำตาวาวๆ คำขอบคุณเลยถูก?"เลืน ลงคอ เพราะชักไม่มั่นใจว่าแท้จริงแล้วฝ่ายนั้นมีความรู้สืกประการใด ก็อาจจะ... ประชดเหมือนทุกครั้งมั้ง
"ไม่เป็นไร ฉันมีร่มแล้ว คงไม่เปียกหรอก"
"แถวนี้ถ้าฝนตกฟ้าผ่า ต้นไม้มันก็โค่นลงมาเป็นประจำอย่างนี้แหละคุณ
แม่แรงไฟฟ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น