วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แต่มันยังไม่มีความจำเป็นที่คุณพี่จะต้องทำ

"แต่มันยังไม่มีความจำเป็นที่คุณพี่จะต้องทำ" น้องสาวแย้งเสียงขื่น ผู้เป็น พี่มองหน้าอย่างสงสัย
"ทำไมล่ะ พี่เองก็ไม้ใกล้ฝึงแล้วนะ จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้'
"คุณพี่ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกค่ะ บอกตรงๆ ว่ารพีไม่อยากให้คุณพี่ทำ พินัยกรรม ไม่รู้เลยหรือคะว่ามันเหมือนเป็นการแช่งตัวเองน่ะ" แม่แรงไฟฟ้า
"เหลวไหลน่ารพี" ดุอย่างจริงจัง เคยรู้สึกว่าน้องสาวเป็นคนช่างคิดงมงาย แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นเอามากขนาดนี้ กาซะลองมองหน้ายายทั้งสอง อยาก จะลุกเดินหนีแต่ดูเหมือนหัวข้อการสนทนาจะเกี่ยวข้องกับตัวเองจึงทนนั่งอยู่
คำพูดหลายคำของคุณยายเล็กดูจะเข้าใจว่าหล่อนนั้นคือทายาทผู้รับมรดก แต่เพียงผู้เดียว
คุณพันธุรพีขอตัวลากลับเมื่อเห็นว่าการพูดคุยกับพี่สาวชักจะไม่ลงรอย แต่พอเรียกตัวนายแพทย์สฤษด์คุณให้มารับ แพรสาก็เข้ามาบอก "คุณหมอไปส่งคุณดำรงค่ะ"
"ให้มันได้อย่างนี้สิลูกฉัน สอนอะไรไม่เคยได้ดังใจหรอก" ผู้เป็นมารดาเข่นเขี้ยว คุณปรียางค์ศรีมองหน้าน้องสาวอย่างไม่สบายใจ นักก่อนบอก
"ให้แม่ปีบไปส่งแล้วกัน" แม่แรง ไฟฟ้า รถยนต์
"คุณปีบไปไม่ได้ค่ะ" แพรสารีบขัด เด็กสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อเห็น สีหน้านายแต่ละคน รีบบอกต่ออย่างลนลาน "มีแขกจากกรุงเทพฯ มาขอพบ คุณปีบค่ะ"
แทนที่ประมุขของคุ้มจะเป็นคนถามว่าใคร ผู้เป็นน้องสาวกลับเป็นฝ่ายถาม
แทน
"คุณดิสธรค่ะ"
สินเสียงคำตอบของแพรสา คุณพันธ์รพีก็ยิ้มหยัน ปรายตามองหน้า หลานสาวขณะที่เอ่ยถามเสียงเย้า "งั้นที่ข่าวสังคมเขาลงว่ากำลังตามคั่วกันอยู่ก็ เป็นเรื่องจริงใช่มั้ยแม่ปีบ"
ร้อนเป็นไฟ
"นี่ปีบรู้แล้วเหรอ" ถามเสียงสูง บรรยากาศเริ่มอึดอัด กาชะลองเสยผมที่ หล่นลงมาระหน้าเบาๆ หล่อนโม่ซอบบรรยากาศแบบนี้ มันเหมือนโลกทั้งใบ กำลังถูกปีบให้เหลือนิดเดียว
"พอดีเมื่อเช้า...ปีบลงมาเดินเล่นกับคุณยาย...คุณยายเลยบอกค่ะ" "อ้อ นั่นสินะ ต้องบอกอยู่แล้วในเมื่อปีบเป็นหลานสาวคนโปรด" นาเสียง
เครือเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวพยายามสะกดอารมณ์Iว้ขณะที่บอกหลานสาว "ยายไม่อยากให้ทำเลย คนที่ทำพินัยกรรมก็เหมือนกับคนที่แช่งตัวเอง"
"คงไม่ใช่หรอกค่ะคุณยายเล็ก คุณยายเพียงแต่บอกว่าอยากทำให้ทุกอย่าง มันลงตัวเรียบร้อยก็เท่านั้น"
"ทุกอย่างมันจะได้เรียบร้อยไม่มีปัญหาเมื่อตอนที่คุณพี่สิ้นแล้วใช่มั้ย แม่ปีบพูดเหมือนคนไม่มีหัวใจ' คุณพันธุรพียิ้มหยัน "แต่คิดอีกทีมันก็เป็นเรื่อง ดีใช่มั้ยเเม'ปีบ ในเมื่อมรดกของคุณพี่มันก็คงจะตกแก่ทายาท"
ผู้เป็นยายเล็กเน้นเสียง ทำเอากาซะลองกลืนนาลายลงคออย่างยากเย็น เข้าใจความหมายแห่งการประชดประชันนั้นดี หล่อนเองก็คุยกับประมุขคุ้มภูคา กาซะลองอยู่เหมือนกันในเรื่องนี้ ทรัพย์สมบัติใดๆ ไม่เคยมีค่าหากปราศจาก ผู้เป็นที่รัก แต่คุณปรียางค์ศรีกลับแย้งว่าสำหรับท่าน ท่านก็อยากยกทรัพย์สมบัติ ให้กับผู้เป็นที่รักเหมือนกัน แม่แรงตะเข้
ยอมฟังเหตุผล ในเมื่อท่านไม่ได้บอกว่ารักใครและจะยกทรัพย์สมบัติให้ ใคร หล่อนจะค้านไปก็คงเปล่าประโยชน์
นั่งฟังคุณพันธุรพีพรํ่าเพ้ออยู่นาน จวบจนประมุขของบ้านเดินออกมาพร้อม กับทนายความประจำบ้าน
ผู้มาเยือนขอตัวกลับก่อนเมื่อเห็นสมาชิกในบ้านอยู่พร้อมหน้ากัน กาซะลอง เดินไปประคองผู้เป็นยายให้มานั่งร่วมโต๊ะด้วย หญิงชราทักทายน้องสาวอย่าง อารมณ์ดี แต่ผู้เป็นน้องกลับหน้าบึ้งตึง
"รพีไม่ทราบเลยว่าคุณพี่นัดทนายให้มาทำพินัยกรรม"
"ขอโทษที พอดีนึกปุบปบขึ้น อยากทำทุกอย่างให้มันเรียบร้อย เลยให้ คำสร้อยโทรตามคุณดำรงมาที่นี่"
แม่แรงตะเข้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น