วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คุณปีบ...คุณปีบเป็นอะไรคะ

จะเป็นบ้านเกิดของหล่อน แต่หล่อนก็จากที่นี่ไปหลายปี นานจนความคุ้นเคย
บางอย่างแทบจะจางหายไปจากมโนนึก
รู้สืกเหมือนจะชาวูบไปทั้งร่าง เมื่อเห็นเงาบางสิงเคลื่อนผ่านจากมุมระเบียง
ที่ทอดไปส่ตัวห้องประมุขของบ้านอย่างช้าๆ
"คุณยาย!" เร็วเท่าความคิด หล่อนรีบสาวเท้าวิ่งตามไปทันที
เงานั้นดูจะรู้ตัว...มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานลมพัดแล้ววูบหาย กาซะลอง
รีบเร่งฝืเท้า แต่พลันสะดุดเมื่อร่างปะทะกับความนุ่มหยุ่นของบางอ่ย่างพร้อมกับ
เสียงร้องว้าย แม่แรงไฟฟ้า
"คุณปีบ...คุณปีบเป็นอะไรคะ" คำสร้อยรีบประคองร่างระหงที่ล้มเค้เกัไม่ เป็นท่าของผู้ที่ถูกเรียกว่าคุณปีบขึ้นมา กาซะลองผวา แต่ยังหันมองโดยรอบ
"คำสร้อย...คำสร้อยเห็นใครเดินผ่านไปที่ห้องคุณยายมั้ย"
หญิงวัยกลางคนข้าเก่าเต่าเลี้ยงของคุ้มภูคากาซะลองนิ่งคิดไปครู่ ก่อนบอก "ไม่เห็นนี่คะ ดิฉันเองก็เพิ่งมาจากห้องของคุณท่าน คุณปีบเห็นอะไร ใครหรือ คะ" ท้ายเสียงส่อความสงสัยระคนประหวั่นพรั่นพรึง กาซะลองรีบปฏิเสธด้วย เกรงว่าจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในบ้านมากเกินไป
คำสร้อยมองดูนายหญิงของบ้าน หลานสาวคนโปรดของคุณปรียางค์ศรี หน้าผอมเรียวซูบซีดไม่เห็นจะงดงามสะดุดตาเหมือนอย่างที่เฉิดฉายบนจอทีวี ดวงตาคมหม่นเศร้าแฝงไว้ด้วยความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด แม่แรง ไฟฟ้า รถยนต์
"คุณปีบไม่ค่อยสบาย ไม่พักผ่อนหน่อยหรือคะ เพิ่งจะตีสี" เอ่ยถาม อย่างเกรงใจ กาชะลองตอบเสียงโหย
"ฉันนอนไม่ค่อยหลับ เลยว่าจะไปหาคุณยายเสียหน่อย แล้วคำสร้อยล่ะ ตื่นทำไมแต่เช้า"
"ทำกับข้าวใส่บาตรค่ะ คุณท่านสั่งให้ทำทุกวัน ช่วงนี้คุ้มเรามีเรื่องมีราวบ่อยๆ" "มีเรื่องอะไร" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน คุ้มภูคากาซะลองมีเรื่อง...มีเรื่องโดย ที่หล่อนไม่รู้
"เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...เดี๋ยวดิฉันขอตัวไปโรงครัวก่อนนะคะ" บอก ก่อนรีบลนลานจากไป กาซะลองยืนคว้าง เกิดคำถามมากมายในใจ ความฝันของหล่อน...จะเฝ็นลางบอกเหตุบางอย่างหรือ...
"คุณยาย!!!" กาซะลองหวีดลั่น...ทะลึ่งตัวตื่นบนเตียงเหงื่อแตกพลั่ก รู้สืก เหมือนมีใครคนหนึ่งที่กำลังนอนคุดคู้อยู่เบี้องล่างผวาเฮือกขึ้นมาหาหล่อน
"คุณปีบคะ คุณปีบ" แพรสารีบเอื้อมมีอไปเขย่าตัวกาซะลอง นายสาวหน้า ซีดปากสั่นถามละลํ่าละลัก
"คุณยาย คุณยายอยู่ที่ไหน" แม่แรงตะเข้
"คุณท่านอยู่ที่ห้องค่ะ นอนหลับอยู่"
กาซะลองถอนหายใจอย่างโล่งอก ยกมือขึ้นลูบหน้าที่พราวไปด้วยเหงื่อ กวาดสายตามองไปรอบบริเวณ ภาพคุ้นตาค่อยปรากฏ ม่านสีขาวที่ติดอยู่ริมหน้าต่าง พลิ้วไหวราวกับกำลังฉายให้เห็นภาพเด็กตัวน้อยนั่งเย็บผ้าม่านผืนยาวกับหญิง ชราญ้ยังคงความสง่า มือเล็กๆ จับเข็มอย่างเก้ๆ กังๆ ผืนผ้าบิดไม่เป็นรูปเป็น ร่าง   ผู้สูงวัยกว่าต้องเอื้อมมือมาช่วยอีกแรง  จนผ้ายาวผืนนั้Vเกลายเป็นผ้าม่าน
ผืนสวยและถูกนำไปติดไว้ที่หน้าต่างทั่วทั้งห้องท่ามกลางความภูมิใจของเจ้าตัว ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นฝืมือของผู้เป็นยายล้วนๆ
ความทรงจำทุกอย่างมันซ่างเด่นชัด...ข้าวชองทุกอย่างทีวางอยู่ไม่เคย เปลี่ยนแปลง นัยน์ตาคมกะพริบถี่ๆ หค่อนมาถึงคุ้มภูคากาซะลองแล้ว
แพรสาค่อยๆ ช้อนสายตามองกาซะลอง ไม่ค่อยกล้ามองอย่างเต็มตาเพราะ คำที่พ่อพรํ่าสอน 'ท่านเป็นนาย เราเป็นบ่าว อย่าวางตนเสมอท่าน'
"คุณปีบเจ็บหลังหรือคะ" หล่อนหมายถึงอาการที่อาจหลงเหลือจากการตก มอเตอร์ไซค์ กาซะลองส่ายหน้าดก ยังอกสั่นขวัญหายกับฝืนร้ายเมื่อครู่
"ฉันจะไปหาคุณยาย"
"คุณท่านสั่งให้คุณปีบพักผ่อนค่ะ ท่านเป็นห่วง ตากฝนมาแล้วยังประสบ อุบัติเหตุอีก"
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างพยายามทบทวนความคิด หล่อนน่ะหรือประสบ อุบัติเหตุ
"คุณปีบตกมอเตอร์ไซค์น่ะค่ะ" แพรสาช่วยบอก เพราะเห็นสีหน้านายสาว แล้วท่าทางจะจำไม่ได้จริงๆ แต่พอบอกแล้วคุณปีบกลับยิ่งตีหน้าเข้มจนแพรสา นึกแหยง หารู้ไม่ว่าคุณปีบกำลังเข่นเขี้ยวในใจ
ตาบ้าเอ๊ย ตอนเด็กทำฉันตกจักรยาน พอโตขึ้นมายังทำฉันตกมอเตอรIซค์อีก
แม่แรงตะเข้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น